ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ทุกปีมีผู้เสียชีวิตประมาณ 9.4 ล้านคนจากภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนอนหลับไม่เพียงพอ
ผมเข้าใจดีว่าในวัยของเรา ชีวิตมักบีบบังคับให้เราต้องเสียสละการนอนหลับเพราะความรับผิดชอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราต้องทำงานทั้งคืนเพื่อหาเลี้ยงชีพ ดูแลครอบครัว หรือบางครั้งก็เป็นเพียงแค่นอนไม่หลับแม้ร่างกายจะอ่อนล้าเต็มที แต่การอดนอนไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ หรือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เร่งรีบ ร่างกายของเราต้องการและมีสิทธิ์ที่จะได้พักผ่อน ไม่ว่าจะมีความกดดันมากแค่ไหนก็ตาม มีเพียงเมื่อเราให้เวลาร่างกายฟื้นฟูสุขภาพ เราถึงจะมีกำลังพอที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย และที่สำคัญคือการได้ชื่นชมผลสำเร็จที่เราได้สร้างขึ้น แทนที่จะจมดิ่งไปสู่การนอนที่ยาวนานตลอดไป
การนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้คุณเข้าสู่วงจรอันตรายของความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงอื่นๆ หากคุณกำลังเผชิญกับอาการนอนไม่หลับ ลองใช้วิธีช่วย เช่น ดื่มชาพุทราจีนหรือลองใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยผ่อนคลายและปรับปรุงคุณภาพการนอน หากงานยุ่งเกินไปจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน สิ่งที่ควรทำคือพยายามหาทางปรับสมดุล เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาฟื้นฟู
นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อรักษาความดันโลหิตเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงจากโรคความดันโลหิตสูง และป้องกันผลกระทบที่รุนแรงเมื่อความดันโลหิตสูงเริ่มเกิดขึ้นแล้ว แต่คุณอย่าเชื่อยาที่หมอจ่ายมาทั้งหมดนะ การเดินทางในการหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความดันของผมนั้นลำบากมาก ผมเคยใช้ยาที่ทำให้อาการรุนแรงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
หมอได้สั่งจ่ายยาหลายชนิดเพื่อรักษาโรคความดันโลหิตสูงให้กับผม เช่น amlodipine, enalapril, และ hydrochlorothiazide หลังจากทานยา อาการต่าง ๆ ก็ดีขึ้นชั่วคราว ความดันโลหิตลดลงบ้าง แต่ก็เพียงไม่กี่วันเท่านั้น อาการปวดหัว เวียนศีรษะ และแน่นหน้าอกก็กลับมาอีกครั้ง รากเหง้าของปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง ผมต้องทานยาซ้ำ ๆ วนเวียนอยู่ในวงจรที่ไม่รู้จบ ทุกครั้งที่อาการปวดกำเริบ ผมต้องใช้ยามากขึ้น และในที่สุด การใช้ยาก็กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือวิธีการที่วงการเภสัชกรรมปัจจุบันทำงาน แทนที่จะรักษาที่ต้นเหตุ พวกเขาเพียงแค่บรรเทาอาการชั่วคราว ทำให้เราต้องพึ่งพายาไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ผลกำไรของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แล้ว ยาเคมีเหล่านี้ยังมีผลข้างเคียงที่น่ากังวลมากมาย เช่น อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ และบางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับไตและตับ เมื่ออาการความดันโลหิตสูงลดลง โรคอื่น ๆ ก็เริ่มเข้ามาแทนที่ ผมเคยประสบกับภาวะแทรกซ้อน เช่น นอนไม่หลับ ขาบวม และแม้กระทั่งมีปัญหาการย่อยอาหาร ผลข้างเคียงเหล่านี้ทำให้ร่างกายของผมอ่อนแอและเหนื่อยล้าจนแทบจะหมดหวังในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงนี้ให้หายขาด